คอเลสเตอรอล (Cholesterol) คือ ไขมันที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์และสัตว์ มีคุณสมบัติที่ไม่ละลายน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ร่างกาย ทำงานได้ เพราะนอกจากอยู่ในเลือดแล้ว ยังครอบคลุมทุกส่วนในร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อของเซลล์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน และมีมากในสมอง กับไขสันหลัง ซึ่งในไขสันหลัง และสมองนั้นมีคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบถึง 1 ใน 4 นอกจากนี้ยังพบมากตามเนื้อ และใต้ผิวหนัง คนอ้วนจะมีไขมันตามบริเวณดังกล่าวมากกว่าคนผอม
คอเลสเตอรอลนั้นถูกผลิตขึ้นในตับ แล้วถูกส่งไปยังส่วนต่างๆ ให้แก่เซลล์ โดยผ่านทางเส้นเลือด ซึ่งเซลล์จะรับไปในจำนวนที่มันต้องการ แล้วส่วนที่เหลือที่เกินความต้องการจะยังคงติดกรังอยู่ในเส้นเลือด ขัดขวางการไหลเวียนของกระแสเลือด ซึ่งก่อให้เกิดแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว แต่หากเกิดกับเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ก็ปรากฎอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
คอเลสเตอรอลนั้นจะสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดงอย่างเงียบๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด เสมือนกับมัจจุราชที่ก้าวเท้าเข้าหาอย่างเงียบๆ
คอเลสเตอรอลนั้นถูกผลิตขึ้นในตับ แล้วถูกส่งไปยังส่วนต่างๆ ให้แก่เซลล์ โดยผ่านทางเส้นเลือด ซึ่งเซลล์จะรับไปในจำนวนที่มันต้องการ แล้วส่วนที่เหลือที่เกินความต้องการจะยังคงติดกรังอยู่ในเส้นเลือด ขัดขวางการไหลเวียนของกระแสเลือด ซึ่งก่อให้เกิดแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว แต่หากเกิดกับเส้นเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ก็ปรากฎอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
คอเลสเตอรอลนั้นจะสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดงอย่างเงียบๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด เสมือนกับมัจจุราชที่ก้าวเท้าเข้าหาอย่างเงียบๆ
แต่ทว่าตัวคอเลสเตอรอลนั้น ใช่ว่าจะส่งผลเสียแก่ร่างกายเสมอไป คอเลสเตอรอล นั้นได้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดดีและชนิดไม่ดี
ชนิดดีเรียกว่า HDLs (High Density Lipoproteins) ได้จากอาหารและร่างกายผลิตขึ้น เพื่อนำไปใช้ ชนิดนี้จะช่วยขับ คอเลสเตอรอลที่เกินต้องการออกจากร่างกายด้วย
ชนิดไม่ดีเรียกว่า LDLs (Low Density Lipoproteins) ได้จากอาหารเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นชนิดที่ร่างกายไม่ต้องการ
ดังนั้นเวลาดูค่า หรือระดับของ คอเลสเตอรอล ในร่างกายควรที่จะดูที่สัดส่วนของ HDL กับ LDL จะดีกว่า
ชนิดดีเรียกว่า HDLs (High Density Lipoproteins) ได้จากอาหารและร่างกายผลิตขึ้น เพื่อนำไปใช้ ชนิดนี้จะช่วยขับ คอเลสเตอรอลที่เกินต้องการออกจากร่างกายด้วย
ชนิดไม่ดีเรียกว่า LDLs (Low Density Lipoproteins) ได้จากอาหารเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นชนิดที่ร่างกายไม่ต้องการ
ดังนั้นเวลาดูค่า หรือระดับของ คอเลสเตอรอล ในร่างกายควรที่จะดูที่สัดส่วนของ HDL กับ LDL จะดีกว่า
และเป็นเรื่องที่น่าแปลก จากการศึกษา พบว่ามีจำนวนสัดส่วนที่มากพอสมควร ของผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด กลับมีระดับ คอเลสเตอรอล ในร่างกายต่ำหรือเป็นปกติ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่ได้เกิดจากไขมัน คอเลสเตอรอล เองโดยตรง แต่สิ่งที่เป็นผลร้ายกับร่างกายคืออนุภาคออกซิไดซ์ของ LDL หรือ คอเลสเตอรอล ที่ไม่ดีนั่นเอง
วันนี้หลายคนคงได้เข้าใจแล้วว่า จริงๆ แล้ว คอเลสเตอรอล ที่พูดถึงกันอยู่ทุกวันนั้นคืออะไร และในตอนต่อไป เราจะมาพูดถึง HDL กับ LDL อย่างละเอียด และเห็นภาพกว่านี้กัน
วันนี้หลายคนคงได้เข้าใจแล้วว่า จริงๆ แล้ว คอเลสเตอรอล ที่พูดถึงกันอยู่ทุกวันนั้นคืออะไร และในตอนต่อไป เราจะมาพูดถึง HDL กับ LDL อย่างละเอียด และเห็นภาพกว่านี้กัน
LDL คอเลสเตอรอล หรือคอเลสเตอรอลให้โทษ
เหตุใดจึงได้ชื่อว่าคอเลสเตอรอลให้โทษ
ไขมันจำพวกคอเลสเตอรอลมีคุณสมบัติไม่ละลายน้ำ และไม่สามารถอยู่ในกระแสเลือดตลอด เหตุนี้จึงเปลี่ยนสภาพเป็นสารตัวใหม่ ชื่อว่า ไลโปโปรตีน มีคุณสมบัติละลายน้ำง่าย ไลโปโปรตีนมีไม่กี่ชนิด แต่ชนิดที่ติดอยู่ตามผิวหนังหลอดเลือดแดง เรียกว่า LDL คอเลสเตอรอล หรือคอเลสเตอรอลให้โทษ
ไขมันจำพวกคอเลสเตอรอลมีคุณสมบัติไม่ละลายน้ำ และไม่สามารถอยู่ในกระแสเลือดตลอด เหตุนี้จึงเปลี่ยนสภาพเป็นสารตัวใหม่ ชื่อว่า ไลโปโปรตีน มีคุณสมบัติละลายน้ำง่าย ไลโปโปรตีนมีไม่กี่ชนิด แต่ชนิดที่ติดอยู่ตามผิวหนังหลอดเลือดแดง เรียกว่า LDL คอเลสเตอรอล หรือคอเลสเตอรอลให้โทษ
LDL คอเลสเตอรอล มีหน้าที่พาคอเลสเตอรอลตัวสำคัญอื่นๆ ไปยังเซลล์ หากร่างกายมี LDL คอเลสเตอรอลไม่เพียงพอ ผนังหลอดเลือดจะบางลง การผลิตฮอร์โมนต่างๆ ลดลง เป็นต้น
ไลโปโปรตีนในเลือดมี 4 ชนิด
1. LDL
2. HDL
3. ไคโลมีครอน
4. VLDL
การมี LDL คอเลสเตอรอลปริมาณมากเกินไปจะเปลี่ยนหน้าที่ เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดง จนหลอดเลือดแดงแข็งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง หรือด้วยสาเหตุใดก็ตาม เป็นเหตุให้ร่างกายขจัด LDL คอเลสเตอรอลไม่ทัน ส่วนนี้จึงกลายเป็นคอเลสเตอรอลให้โทษ
ปัจจุบัน LDL คอเลสเตอรอลสามารถอยู่ในกระแสเลือดนานกว่าเดิม จากสาเหตุบางอย่าง หนึ่งในสาเหตุเหล่านั้นคือ การรวมตัวกับออกซิเจนแล้วจะเกาะตามผนังภายในหลอดเลือดแดงง่ายขึ้น
HDL คอเลสเตอรอล หรือคอเลสเตอรอลชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย
ในบรรดาไลโปโปรตีน ไม่ควรมองข้าม HDL คอเลสเตอรอล เพราะร่างกายสามารถสร้าง HDL คอเลสเตอรอลได้ที่ตับ และลำไส้เล็ก มีหน้าที่ลำเลียงคอเลสเตอรอลส่วนที่เหลือใช้จากเซลล์กลับไปยังตับ HDL เมื่อรวมกับคอเลสเตอรอลตัวอื่นจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และไหลวนเวียนอยู่ในเลือด
LDL คอเลสเตอรอลได้ชื่อว่าเป็นคอเลสเตอรอลให้โทษ แต่สำหรับ HDL คอเลสเตอรอล ทำหน้าที่กำจัดคอเลสเตอรอลที่เหลือออกจากผนังหลอดเลือดแดง จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คอเลสเตอรอลชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย
ผู้ที่มี HDL ในเลือดเพียงพอ มีโอกาสเกิดโรค หลอดเลือดแดงแข็งตัว น้อยกว่าคนกลุ่มอื่น แม้ว่าร่างกายจะมี LDL คอเลสเตอรอลสูงกว่าปกติบ้าง และเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดงก็ตาม แต่ HDL ยังสามารถดึงออกกลับไปยังตับได้
HDL กับ LDL คอเลสเตอรอล ต้องมีปริมาณได้สัดส่วนกัน
เมื่อ HDL และ LDL คอเลสเตอรอลไม่ได้สัดส่วนกัน หรือจากภาวะในเลือดทำให้ HDL ทำงานไม่สะดวก LDL คอเลสเตอรอลสามารถเกาะตามหนังหลอดเลือดแดงง่ายขึ้น
ผู้สูบบุหรี่มักมี HDL น้อยลง ส่วนผู้ที่ออกกำลังกาย หรือดื่มเหล้าในปริมาณที่พอเหมาะจะมี HDL สูงขึ้น
จากครั้งนี้ เชื่อว่าคงได้ไขปัญหาคาใจ ของใครต่อหลายคนเสียที ว่า LDL กับ HDL นั้นคืออะไร แล้วต่างกันอย่างไร
คนที่มีคอเลสเตอรอลสูง จึงควรดูละเอียดด้วยว่า สัดส่วนของชนิดดี (HDLs) กับชนิดไม่ดี (LDLs) เป็นอย่างไร เราควรมีชนิดดีสูงๆ ถ้ามีชนิดดี ต่ำ แสดงว่า อัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจค่อนข้างสูง ระดับคอเลสเตอรอลปกติ ควรต่ำกว่า 200 สำหรับ HDLs นั้นสูงเท่าไหร่ยิ่งดี มีการวิจัยออกมาแล้วว่า กลุ่มคนที่กินผักบ่อยๆ จะมีระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่ากลุ่มคนที่กินแต่เนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ เมื่อแพทย์พบว่า คนไข้มีคอเลสเตอรอลสูง ก็มักจะแนะนำให้ลดความอ้วน ไม่ให้กินอาหารที่มีไขมันสูง
วิธีเพิ่ม HDLs ลด LDLs ด้วยอาหารธรรมชาติ เช่น หอมใหญ่ หอมเล็ก เป็นของดี มีประโยชน์ทำให้ตัว HDLs สูง ถ้าเอา ไปทำให้สุก ก็จะด้อยคุณค่าลงเล็กน้อยผัก ผลไม้ มักอุดมไปด้วย วิตามินซี เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) และพวกแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidants) ทั้งหลาย ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมาก ในการทำให้ LDLs เปลี่ยนเป็นน้ำดี วิตามินซี สามารถรวมตัวกับคอเลสเตอรอล และแคลเซียมทำให้คอเลสเตอรอล ละลายน้ำได
ข้อสำคัญอย่ากินผลไม้ที่เป็นแป้งและหวานมากอันจะมีผลต่อน้ำตาลสูงเกินไป
อีกถั่วและธัญญพืช เช่น ถั่เหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ และข้าวซ้อมมือ ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ก็เป็นกลุ่มอาหารที่ช่วย ลดคอเลสเตอรอลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยเสริมโปรตีนด้วย
กระเทียม มีสาร อัลลิไทอะมีน ช่วยเผาผลาญและลดคอเลสเตอรอล เพิ่ม HDLs
อาหารที่มีวิตามินอีสูง ได้แก่ น้ำมันมะกอก ถั่วอัลมอนด์ (Almond) ผลอะโวคาโด (Avocado) และพวกธัญญพืชต่างๆ แต่น้ำมันมะกอก ถั่วอัลมอนด์ รวมทั้วอะโวคาโด กลับช่วยทำให้ HDLs ของคุณสูขึ้น เป็นไขมันที่ร่างกายต้องการ เช่นดียวกับไขมันจากปลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น